1. การเรียงลำดับแบบเลือก (Selection sort)
2. การเรียงลำดับแบบเร็ว (Quick sort)
3. การเรียงลำดับแบบฮีป (Heap sort)
4. การเรียงลำดับแบบฟอง (Bubble sort)
5. การเรียงลำดับแบบแทรก (Insertion sort)
6. การเรียงลำดับแบบเซลล์ (Shell sort)
7. การเรียงลำดับแบบผสมผสาน (Merge sort)
ในที่นี้ขอยกตัวอย่าง 3 ลำดับแรกค่ะ
4.1 การเรียงลำดับแบบเลือก (Selection sort)
เป็นวิธีเรียงลำดับโดยการเลือกค่าที่น้อยออกไปเรียงลำดับใหม่
4.2 การเรียงลำดับแบบเร็ว (Quick sort)
การเรียงลำดับแบบเร็ว (Quick sort) เป็นวิธีเรียงลำดับที่เร็วกว่าการเรียงลำดับแบบฟอง โดยการจับคู่ตัวเลขหัวและท้าย คือ ตัวที่ 1 และตัวสุดท้ายมาเปรียบเทียบกัน ถ้าตัวเลขทางท้ายน้อยกว่าทางหัวให้สลับที่แล้วเลื่อนเข้าหากันทั้ง 2 ด้าน และเปรียบเทียบตัวเลขคู่ถัดไป
4.3 การเรียงลำดับแบบฮีป (Heap)
ฮีป (Heap) คือ โครงสร้างข้อมูลตามแนวคิดแบบต้นไม้ โดยจะเรียกข้อมูลแต่ละชุดว่า โหนด (node) ซึ่งแต่ละโหนดจะมีเส้นโยงถึงกันแบบรากของต้นไม้ โหนดที่อยู่ด้านบนจะต้องมีค่าตัวเลขมากกว่าโหนดล่าง เรียกว่า รูท (root) ส่วนโหนดที่อยู่ด้านล่างจะเป็นโหนดลูก ซึ่งมีโหนดทางซ้าย (left child) และโหนดขวา (right child)
ใบงานที่ 1.4
1. การเรียงลำดับความสูงของเสา
จากรูปเป็นเสาทีป่ักบนพื้น ให้เขียนอัลกอริทึมจัดเรียงเสาใหม่โดยเรียงลำดับจากเสาต้นที่เตี้ยสุดไปหาต้นที่สูงที่สุด (Ascending)
2. จัดเรียงเสื้อให้หาได้ง่ายที่สุด ถ้านักเรียนมีเสื้อแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ให้เขียนอัลกอริทึมในการเรียงลำดับของเสื้อให้หาง่ายที่สุด
ส่งไฟล์งานที่ 1.4เฉลย ใบงานที่ 1.4
0 ความคิดเห็น